แชร์

ว่าเรื่อง"ขุนแผน"

อัพเดทล่าสุด: 8 มิ.ย. 2024
377 ผู้เข้าชม

ว่าถึงขุนแผน ที่(อาจจะ)ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับขุนแผน

หนึ่งในเครื่องรางยอดนิยมของคนไทยอมตะ ที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักของผู้คน

ทั้งที่เชื่อและไม่เชื่อ เรื่องเครื่องรางของขลัง ไสยเวทย์อาคม นั่นก็คือขุนแผนคงยากที่จะปฎิเสธกัน

กี่เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าใด พระที่นิยมสร้างเป็นอันดับต้นๆ หลายสำนัก หลายเกจิอาจารย์

คงเป็นหลักฐานที่ยืนยันกันได้เป็นอย่างดี


หากแต่หลายๆคนอาจจะไม่รู้ รวมไปถึงผู้จัดสร้างเองก็อาจจะไม่รู้ ว่าขุนแผนที่สร้างออกมานั้น

บางครั้งก็ไม่ใช่ขุนแผน.........มาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะงง แต่แน่นอนว่าถ้ามันเข้าใจง่ายๆ อธิบายให้เข้าใจได้ด้วยข้อเขียนไม่กี่ประโยค

ผมก็คงไม่ได้มาเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะมันมีรายละเอียดเชิงลึกมากมาย เอาว่าใครอยากรู้ ก็อ่านกันต่อไปให้จบ

หากใครไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆหรืออยากรู้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องราวของขุนแผน ก็หยุดอ่านกันตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย

ว่ากันถึงประวัติพระขุนแผน เท่าที่สืบค้นกันมาว่าพบครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2477 จากพวกที่แอบลักลอบขุดกรุหาสมบัติ

บริเวณพื้นที่สุพรรณบุรีและอยุทธยา และได้พบเจอเป็นจำนวนมาก

เพราะความเชื่อคนโบราณไม่นิยมเก็บพระไว้ที่บ้าน และจะไม่ทำการพกแขวนพระเครื่องใดๆไว้กับตัว

แต่จะสร้างบรรจุไว้ในเจดีย์ เชื่อกันว่าอาจจะบรรจุไว้ 84,000 องค์ ต่อเจดีย์ ตามจำนวนพระธรรมขันธ์

การจะพกพาพระเครื่องของคนโบราณนั้น จะไม่แขวนไว้กับตัว เพราะถือว่าพระนั้นอยู่สูงกว่านั้น

ตำแน่งที่พกพากันคืออมไว้ในปาก มีความเชื่อว่านอกจากจะมีอิทธิคุณให้เดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัยแล้ว

ยังช่วยให้ไม่กระหายน้ำ ไปจนถึงไม่เกิดการหิวข้าวโดยง่าย

เพราะสมัยก่อนไม่ได้จะมีร้านข้าว ร้านอาหารขายตามข้างทางเหมือนยุคสมัยนี้หรอกนะครับ

การจะกินข้าวมักจะกินกันตอนตะวันลับฟ้า เดินทางไม่ได้แล้ว จึงได้พักกินอาหารพร้อมกับพักผ่อน

จนเมื่อเช้าแล้วจึงค่อยเดินทางต่อในคราวเดียวกัน

สันนิษฐานกันว่า พระขุนแผนนั้น อาจจะสร้างเมื่อครั้งสมัยสมเด็จพระนเรศวร ยามเมื่อครั้งทำศึกยุทธหัตถี

มอบให้เหล่าทหารไว้สำหรับเพิ่มพูนขวัญและกำลังใจเมื่อตอนจะออกศึก........นี่คือประวัติของพระขุนแผนตามที่เชื่อถือกันมา

ละไว้ตรงนี้กันก่อน

มาว่ากันถึงขุนแผนที่เราๆเชื่อถือกัน ว่าคือเป็นสิ่งแทนตัวของพ่อขุนแผน พลายแก้ว บุตรขุนไกร

ตำแหน่งสุดท้ายก่อนจะเสียชีวิต คือขุนสุรินทร์ฤาไชย เจ้าเมืองกาญจนบุรี

เชื่อกันว่าดั้งเดิมนั้นนิยายพื้นเมืองของชาวสุพรรณ


จนเมื่อครั้งรัชกาลที่ 2 แผ่นดินรัตนโกสินทร์ฟื้นฟู จึงได้มีการชำระประชันบทกลอนและรวบรวมเป็นบทขับเสภาหลวง

ที่นิยมขับร้องเล่นกัน จนมาแพร่หลายสู่สามัญชนในเวลาต่อมา ขุนแผนเป็นแบบอย่างของเหล่าผู้ชายทั้งหลาย

รูปงาม มีวิชาอาคม ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน จะว่าไปก็มีลักษณะของเพลย์บอย หรือดอน ฮวน

อันเป็นวิถีชีวิตที่ปรารถนาของเหล่าผู้ชายทั้งหลาย

แต่หลายๆคนอาจจะไม่รู้ ว่าจากการสืบเสาะประวัติ สุดท้ายขุนแผนก็เบื่อหน่ายในชีวิตอันแสนวุ่นวาย

ในชีวิตอย่างเรียบง่ายในตำแหน่งสุดท้ายอย่างเงียบๆ ไม่ผาดโผนใดๆอีก

เชื่อกันว่าขุนแผนนั้นมีตัวตนจริงมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคเวลาประมาณ พ.ศ.2000-2080 โดยประมาณ

ส่วนพระนเรศวร ช่วงพระชนมายุของพระองค์คือช่วงเวลาราวๆ พ.ศ.2098-2148

จะเห็นได้ว่าช่วงเวลานั้นห่างกันเป็นระยะเวลาไม่นาน อีกทั้งถ้าเทียบตามตำแหน่งแล้ว

พระนเรศวรท่านเป็นกษัตริย์ เป็นเจ้ามหาชีวิต ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบใดๆ

คนละเรื่องกับผู้ที่มีตำแหน่งสูงสุดในชีวิตคือเจ้าเมืองอย่างแน่นอน


ดังนันมาคิดถึงความเป็นไปได้กันดู ว่าจำเป็นหรือไม่ที่ระดับกษัตริย์เจ้าแผ่นดิน

จะต้องมาสร้างรูปลักษณ์ของเจ้าเมืองๆนึง มาเป็นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ให้เหล่าทหารนายกอง

และตามประวัติศาสตร์เอง ตัวขุนแผน หรือหลวงสุรินทร์ฤาไชย

ก็ไม่ปรากฏว่ามีวีรกรรมยิ่งใหญ่จนถึงขนาดจะต้องเอามาเปฌนสัญลักษร์ในการต่อสู้ข้าศึกแต่อย่างใด

มาว่ากันถึงรูปลักษณ์ ของพระที่เชื่อกันว่าเป็นขุนแผน รูปแบบดั้งเดิมตามี่ค้นพบ

จะเป็นลักษณะของพระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือบางคนก็เรียกกันว่าสยบมาร ชนะมาร ปราบมารฯลฯ ก็ตามแต่จะตั้งกันไป

สุดท้ายก็คือปางมารวิชัยทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าไม่มีอันใดเกี่ยวข้องหรือความน่าจะเป็นของขุนแผนทั้งสิ้น

หรือถ้ามีตรงไหนที่เกี่ยวโยงได้ ใครทราบก็รบกวนบอกผมทีครับ

มาถึงขุนแผนยุคต่อมา ที่สร้างขึ้นโดยเกจิอาจารย์ยุคหลัง ที่ไม่ใช่พระกรุอีกต่อไปแล้ว บางรุ่น

ก็ยังคงมีความยึดโยงกับรูปลักษณ์เดิมอยู่บ้าง แม้จะยังคงรูปลักษณ์คล้ายพระพุทธรูปอยู่บ้าง

แต่ก็เริ่มพบเห็นในรูปลักษณ์ที่ต่างกันออกไป เช่นพิมพ์ปลุกพรายกุมาร ปางอุ้มนาง ปางขี่โหงพราย อันนี้แน่นอนว่าคือขุนแผน

เกี่ยวข้องกับขุนแผนตามบทขับเสภาแน่ๆ

ส่วนรุ่นหลังๆก็มีรูปลักษณ์ที่เป็นรูปบุรุษอย่างชัดเจน ไม่มีรูปลักษณ์อย่างเช่นพระพุทธรูปแบบก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

ซึ่งอันนี้แน่ๆว่าเป็นขุนแผนอย่างชัดเจน


ทีนี้มาว่ากันถึงที่พักกันไว้ข้างต้น ถึงขุนแผนพระกรุ ที่เชื่อกันว่ารุ่นแรกสร้างโดยพระนเรศวร

แต่หาความเชื่อมโยงที่จะเป็นขุนแผนแทบไม่เจอ จึงมาลองตั้งข้อสังเกต และข้อสันนิษฐานดู

ว่าแท้จริงแล้ว ไม่ใช่ขุนแผน และพระองค์เองก็ไม่ได้สร้างขุนแผนตั้งแต่ต้น

หากแต่ยึดโยงกันไปเองเนื่องเพราะพบเจอมากในแถบสุพรรณบุรี จึงเชื่อถือกันไปแบบนั้น

เมื่อไม่ใช่ขุนแผน แล้วคืออะไรล่ะ.......นักวิชาการประวัติศาตร์หลายๆท่าน ได้ตั้งข้อสังเกดุมา

ว่ากันตามประวัติศาสตร์และคติความเชื่อของคนโบราณ เชื่อกันว่าสังคมมนุษย์เราปกครองโดยแถน

แถนก็คือผีฟ้า เป็นความเชื่ออันฝังแน่นของอุษาคเณย์ ว่าแถนปกครองเบื้องบนแล้วก็ส่งตัวแทนของตน

หรือบางคติก็เรียกว่า ทูตพญาแถน หรือบางคนก็เรียก ขุนแถน ในสมัยโบราณราวพันปีก่อนเป็นตำแหน่งใหญ่ที่สุด

ก่อนที่จะมีการสถาปนากษัตริย์ ตามความเชื่อเทวราชรพะบบราชสำนักขึ้นมา

นานๆไปเข้า คำว่าแถนก็เพี้ยนกลายเป็น แผน ลงมาปกครองมนุษย์อีกทีนึง

เชื่อกันว่าตัวแทนของแถนที่เป็นมนุษย์ก็ได้รับการยกย่องต่อมาในตำแหน่งกษัตริย์นั่นเอง


ต่อมาเมื่อคติแถนจางลงและเริ่มจะเสื่อมความเชื่อไป โดยเริ่มรับความเชื่อจากพราหมณ์ต่อมา

กษัตริย์คือนารายณ์อวตาร ผสมผสานไปกับความเชื่อแบบพุทธมหายาน พระโพธิสัตว์ พระพุทธเจ้าที่จะมาตรัสรู้องค์ต่อไป

ในสมัยอยุทธยาจึงมีความเชื่อว่า กษัตริย์นั้น นอกจากจะเป็นผู้ปกครองสูงสุดแล้ว

ยังเป็นผู้ให้กำเนิดหน่อพุทธางกูร อีกนัยหนึ่งคือ ว่าที่กษัตริย์ หรือผู้ที่จะขึ้นเป็นกษัยริย์ ก็คือหน่อพุทธางกูรนั่นเอง

การจงรักภักดี การออกรบเสียสละชีวิต จึงไม่เพียงเพื่อปกป้องแผ่นดิน ปกป้องเจ้านาย แต่ยังเป็นการปกป้องพระศาสนาอีกด้วย

ดังนั้นแล้ว พระขุนแผนที่ขุดออกมาจากกรุยุคแรกๆ สิ่งที่พระองค์เจตนาสร้างมามอบเป็นขวัญกำลังใจทหาร

ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า นั่นคือรูปลักษณ์แทนตัวพระองค์เองก็เป็นได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวหลวงสุรินทร์ฤาไชย

หรือพ่อพลายแก้ว พ่อขุนแผนแต่อย่างใด ส่วนขุนแผนที่สร้างขึ้นช่วงหลังจากนั้นมา ก็แน่นอนว่าเจตนาสร้างเพื่อเป็นขุนแผนแน่ๆ

ก็ถือเป็นเรื่องเล่า เกร็ดความรู้ ที่รู้เอาเพื่อความสนุกเป็นการตั้งข้อสังเกต

มากกว่าที่ไปปรับเปลี่ยนความเชื่อของใครยังไง ไม่จำเป็นต้องเชื่อผม

เพราะนี่คือข้อสังเกตและข้อสรุปเอาจากการศึกษาหาข้อมูลของผม ไม่จำเป็นต้องยึดถือว่าเป็นสิ่งถูกต้องแต่อย่างใด



                                                     สำนักฤษเวทย์ ไสยเวทย์วิทยาและมนตราอีสาน
                                                                    ญ.ญาณวุฒิเทวัญ


บทความที่เกี่ยวข้อง
“ศรัทธา” บันไดขั้นแรกของการอธิษฐานขออะไรก็สำเร็จ
อธิษฐานขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากแรงครู แล้วไม่ได้ อธิษฐานขอแล้วไม่สำเร็จ ต้องทำยังไถึงสำเร็จ อยากรู้จงอ่าน....
5 ก.พ. 2024
จะภะกะสะ หัวใจยอดคาถาที่คนมองข้าม.....
คนเรียนไสยเวทย์ รุ่นใหม่ๆ มักจะมองข้ามคาถานี้ไป เพราะคิดว่าคาถาง่ายๆ ไม่แปลกใหม่ ทำให้ไม่มีความสนใจทำการศึกษาเท่าไหร่.....
11 ม.ค. 2024
"ห้ามกินของในงานศพ"ข้อถือที่ไม่มีคนรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าห้ามเพราะอะไร?
อีกข้อห้ามของคนเล่นของถือวิชา ที่เข้าใจผิดและปฎิบัติกันผิด เพราะไม่รู้ถึงสาเหตุและความหมายที่แท้จริงนั่นคือ "ห้ามกินของในงานศพ".......
11 ม.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy