จะภะกะสะ หัวใจยอดคาถาที่คนมองข้าม.....
เรื่องปรกติของคนเรียนไสยเวทย์และอาคมสมัยนี้ มักจะไม่มีความอดทน ใจเร็วด่วนได้
อยากได้ความสำเร็จเพียงแค่ข้ามคืน และยิ่งกว่านั้นก็คือ มองข้ามพื้นฐานไปมองหาแต่คาถาแปลกๆ ที่ว่าแรงๆ
ไม่ก็คนอื่นๆนั้นไม่มี เพียงเพราะเจตนานั้นอยากจะอวด และอยากข่มผู้อื่น
มากกว่าจะอยากเรียนเพื่อให้เข้าถึง และสำเร็จในวิชาคาถาอาคมอย่างจริงจัง
ประมาณว่าเรียนเพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเรียน แต่ไม่ได้เรียนเพื่อให้แตกฉานและใช้ได้จริงแต่อย่างใด
ร้อยทั้งร้อย คนเหล่านี้มักจะไม่พบเจอความสำเร็จและก้าวหน้าใดๆ ในการเรียนวิชาไสยศาสตร์และอาคม
ในเวลาไม่นานก็เกิดความเบื่อหน่าย เพราะว่าไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงและเข้าไม่ถึงแรงครู
สุดท้ายก็เลิกไป.....
อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เป็นการคัดกรองของพลังเหนือโลก ครูบาอาจารย์เบื้องบน ที่ท่านมักจะทดสอบอย่างหนักก่อน
ที่จะเข้าถึงไสยเวทย์อาคม เชื่อมต่อกับแรงครูและแรงคาถา จนนำมาใช้ให้เกิดความสำเร็จได้
คาถาพื้นฐานง่ายๆอย่าง "นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ" คาถานี้ถ้าให้คนที่คิดจะเรียนอาคมยุคนี้ท่องจำ
และให้นำไปใช้ ส่วนใหญ่มักจะส่ายหัว และค่อนขอดว่า คาถาเบสิคพื้นฐาน ไม่อยากเรียน ไม่มีความน่าสนใจอะไร
ใครๆก็ท่องได้ นั่นคือการปรามาสในอานุภาพคาถานี้อย่างมาก
คาถา "นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ" เรียกกันอีกอย่างว่า หัวใจคาถา ๑๐๘
นั่นคือคาถานี้บทเดียว หากว่าเข้าถึง สามารถใช้ได้ถึง ๑๐๘ ประการ
บางคนอาจจะว่าผมคุยโม้เกินไป แค่คาถาง่ายๆ จะไปมีอานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์อะไรขนาดนั้น
มาถอดความหมายของคาถานี้กัน
"นะโมพุทธายะ" แน่นอนหมายถึงพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเป็นสิ่งสูงสุดในพระศาสนา
อีกทั้งคติความเชื่อของพุทธที่ว่า ในภัทรกัปป์นี้ จะมีพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น ๕ พระองค์
เมื่อสิ้นยุคแห่งพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ แล้ว จะเป็นอันจบสิ้นจักรวาลในภัทรกัปป์นี้
แล้วจะบังเกิดจักรวาลใหม่ เป็นภัทรกัปป์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นแล้วคงไม่มีสิ่งใดในคติพุทธ ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีก
"นะมะพะทะ" ธาตุทั้ง ๔ สรรพสิ่งในโลกล้วนดำรงค์อยู่ได้ด้วยธาตุทั้ง ๔ นี้
หากขาดไปธาตุไหนธาตุนึง นั่นก็คือสิ้นสมดุล จะเรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิดของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล ก็ไม่ผิดแต่ประการใด
"จะภะกะสะ" หัวใจธาตุพระกรณี อันนี้ไม่ค่อยจะมีคนศึกษาความหมายซักเท่าไรนัก
เมื่อถอดมาเป็นบทเต็มจะคือคาถาตัวนี้
"จะ" ย่อมาจาก "จชทุชฺชนสงฺสคฺคํ" แปลว่า จงละเว้นการคบคนชั่วเสีย
"ภะ" ย่อมาจาก ภชสาธุสมาคตํ แปลว่า หมั่นคบหาสมาคมด้วบัณฑิต
"กะ" ย่อมาจาก กรปุญฺญมโหรตฺตํ แปลว่า ให้สร้างบุญ(ให้ทาน) ทั้งกลางวันและกลางคืน
"สะ" ย่อมาจาก สรนิจฺจมนิจฺจํ แปลว่า ให้ระลึกถึงความไม่เที่ยงของสังขารเป็นนิจ
หัวใจธาตุพระกรณีเรียกอีกอย่างว่าคาถาหัวใจคนดี ใครหมั่นภาวนาด้วยคาถานี้บ่อยๆ แคล้วคลาดปลอดภัย
ไปไหนก็มีคนอุปถัมถ์ค้ำชูไม่อดอยาก พอเอามาขยายแบบนี้แล้วจะยังคิดว่า "นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ"
เป็นคาถาง่ายๆพื้นกันอยู่รึเปล่า ที่โบราณจารย์ท่านว่า คาถาบทนี้บทเดียวหากฝึกอย่างแตกฉาน กระทำได้ ๑๐๘ ประการ
จึงไม่ผิดไปจากความจริงแต่อย่างใด
หากอยากจะร่ำเรียนให้เกิดผล ใช้คาถาอาคมบทใดๆให้ได้ตามใจต้องการ คาถาบทนี้ใช้ให้เกิดผลเสียก่อน
นี่คือก้าวแรกของการฝึกหัด แล้วจึงค่อยข้ามไปขั้นต่อไป อยากจะเรียน อยากจะศึกษา ต้องเรียนให้เข้าถึง ให้รู้จริงครับ
เพราะไม่งั้นแล้ว คุณจะไม่มีวันเข้าถึงความสำเร็จใดๆ จากการเรียนไสยเวทย์และอาคมได้เลย