แชร์

"สูบมนต์เข้าตัว" ริจะเลนของคำนี้ต้องรู้

อัพเดทล่าสุด: 11 ม.ค. 2024
1130 ผู้เข้าชม

ว่าเกี่ยวกับพระเวทย์และพระมนต์....

พระเวทย์และพระมนต์ อาคมทั้งหลายนั้น ถ้าให้อธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ก็ประมาณว่า อยู่ในสภาพอนุภาพขนาดเล็ก

คล้ายนิวตรอน และโปรตรอน ไม่มีอัลตรอน เพราะ avenger กำจัดมันไปเรียบร้อยแล้ว หายห่วงครับ......เฮ้ย!!! ไม่ใช่ คนละเรื่องกันโว้ย!!!.......


เป็นพลังอนุภาคขนาดเล็กที่ตามองไม่เห็นแต่สามารถสัมผัสและรับรู้ได้ โดยวิธีต่างๆ

เช่นคนเรียนวิชาอาคม หรือจะคนที่รับการสักยันต์อยู่ ครูบาอาจารย์มักจะให้ภาวนาตลอดลมหายใจเข้าออก

ด้วยคาถาว่า "โสมาเรสะ" หรือ "โสธายะ"

ทั้งสองคาถานี้ก็ตามแต่ว่าสำนักนั้นๆจะให้ใช้บทไหน แต่ได้รับความนิยมพอๆกัน

ยามเมื่อจะปลุกตัวก็มักจะให้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แรงๆ ติดต่อกันยาวๆ ให้เลือดลมสูบฉีดไปทั่วร่างกาย


เพื่อให้พระเวทย์และพระมนต์ทั้งหลายนั้นได้รับการสูดเข้าไปแล้วก็วิ่งกระจายไปในร่างกายให้มากที่สุด

ใครที่เคยสักยันต์มาน่าจะทราบว่าช่วงต่อจากนี้ก็จะเป็นอาการ "ของขึ้น" ที่เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปรกติของการสักเลก เลขยันต์.....



อาการของขึ้น ผมเขียนบทความไว้ละเอียดแล้ว ใครสงสัยก็ไปหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเอา

 


มาต่อกันเรื่องพระเวทย์ พระมนต์กันต่อ สำหรับคนเรียนอาคม ขั้นต้นมักจะให้ฝึกกำหนดลมหายใจ

ให้หายใจเข้าลึกและยาว เป็นจังหวะสม่ำเสมอ พร้อมกับบริกรรมคาถาที่ว่าให้ขึ้นใจ

เพื่อให้พระเวทย์ พระมนต์ทั้งหลายซึมเข้าไปในตัวตลอดเวลา

 


เพราะร่างกายคนเราไม่มีใครมีพลังพิเศษตลอดเวลาแบบ ซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย

คนเรียนอาคมทั้งหลายล้วนแต่ผ่านการเคี่ยวกรำและฝึกตัวเพื่อจะให้ขลังทั้งนั้นครับ

ดังนั้นก็เป็นคำอธิบายว่าทำไม คนเรียนอาคมบางคนวิชาถึงได้เสื่อมถอย

บางคนช่วงเรียนใหม่ๆใช้มนต์อะไรก็ขึ้น

 


แต่พอระยะเวลาผ่านๆไปที่เคยทำได้กลับทำไม่ได้เหมือนเก่า

นั่นก็เพราะว่าห่างการปฎิบัตินั่นเองครับ เปรียบเหมือนนักฟุตบอล แน่นอนครับ

นักเตะที่ฟิดซ้อมร่างกายอยู่เสมอ ก็สามารถเค้นฟอร์มที่ดี สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

คนเรียนอาคม หรือแม้แต่ทุกสาขาอาชีพก็ไม่ต่างกัน ทุกทักษะนั้นได้จากการฝึกฝนทั้งสิ้น พรสวรรค์ก็อย่างนึง พรแสวงก็อย่างนึง



คนมีพรสวรรค์แต่ไร้การฝึกฝน วันนึงก็อาจจะโดนคนมีพรแสวงแซงหน้า

เรื่องแบบนี้เห็นกันจนเป็นเรื่องปรกติในชีวิตประจำวัน


 


ใครเล่นของถือวิชาไม่ขึ้น เรียนมนต์ไม่ติด วิธีแก้ก็ไม่ยากครับ

นั่นคือร่างกายของคุณยังไม่มีพระเวทย์ พระมนต์ประจุมากพอ


หมั่นปลุกตัวและสูบอาคมเข้าตัวอยู่เสมอ

เพราะนอกจากจะทำให้เล่นของถือวิชาขึ้น ยังเป็นการสะสมพลังปราณบริสุทธิ์

พลังด้านบวกจากพระเวทย์พระมนต์สลายปราณไม่ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

ทำได้ด้วยตัวเองและก็ไม่มีใครมาทำให้เราได้

 


สิ่งที่ผมตั้งใจและพยายามทำมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มดำเนินกิจการสำนักฤษเวทย์แห่งนี้


นั่นคือตั้งใจแล้วว่า จะช่วยชี้แนะให้คนเล่นของไม่ขึ้นได้เล่นของขึ้น

เพราะตัวผมเองพื้นฐานก็มาจากคนที่เล่นของไม่ขึ้นมาก่อน

เข้าใจความรู้สึกดีว่ามันช้ำใจขนาดไหน ที่ต้องเสียเงินไปเปล่าๆแต่ไม่เห็นผลอะไร



ความรู้ต่างๆที่ผมลงเขียนเป็นบทความตลอดมา บางคนก็สนใจอ่านมั่งไม่อ่านมั่ง

บางคนก็เห็นว่ายาวไปไม่อยากอ่าน ไม่มีเรื่องราวอภินิหาร อิทธิฤทธิ์ และปาฎิหาริย์ใดๆ ไม่น่าสนใจ

แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเชื่อว่าคนเห็นค่ายังมี หลายๆคนที่เล่นของไม่ขึ้น

ก็เริ่มใช้ของได้มีประสบการณ์จากเอาคำแนะนำต่างๆของผมไปใช้

แม้จำนวนจะน้อยนิดแต่ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับนึงแล้ว

และในระยะยาวผมเชื่อว่าบทความต่างๆที่ผมเขียน จะเป็นคลังข้อมูล ความรู้ชั้นเยี่ยมให้คนรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไป



 


ใครสนใจก็อ่านและนำไปปรับใช้กันดูครับ ทิ้งท้ายบทความนี้


เคล็ดเล็กๆน้อยๆ ที่เชื่อว่าคนมีรอยสัก คนมีของหลายคนบางครั้งอาจจะคิดเยอะ และหนักใจ

เวลาจะทำอะไรที่มันไม่ดีไม่งาม เช่นบางคนอาจจะไปเที่ยวแหล่งอโคจร บางคนอาจจะเบิร์น

หรือประลองยุทธด้วยท่าพิศดารทั้งหลาย บางครั้งอาจจะมีคิดเข้ามาในหัว กลัวของที่มีจะเสื่อมรีเปล่า

 


อันนี้ก็ตามข้อห้ามของสำนักต่างๆที่แต่ละคนไปสัก ไปลงของต่างๆมากัน


แต่ถ้าไม่มีข้อห้าม แต่ยังไม่สบายใจ จะเอาวิธีผมไปใช้เพื่อความสบายใจก็ไม่หวงครับ

คาถาสูบมนต์มีว่า "โสธายะ" หรือ "โสมาเรสะ"

คาถาถอดมนต์ก็คือท่องกลับหลัง "ยะธาโส" "สะมาเรโส"

ใช้สูบมนต์บทไหน ให้ใช้ถอดมนต์บทนั้น


หากจะเข้าแหล่งอโคจร ประกอบกิจกามโรมรันพันตูพิศดารแค่ไหน ก็ให้หายใจออกแรงๆ แล้วภาวนาคาถาที่ว่า

แล้วหากเสร็จกิจพร้อมเป็นปรกติ ก็สูบมนต์กลับมาที่ตัวอีกครั้ง



บางคนอาจจะเป็นกังวลว่า ทำแบบนี้แล้วของจะหายถาวรไปเลยรึเปล่า

ความจริงแล้วก็ไม่ใช่เป็นการถอนของนะครับ แต่เป็นการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ครูบาอาจารย์

ที่ท่านรักษารอยสักเสกเลขยันต์ มนต์วิชาต่างๆ ว่าเราขออนุญาตประกอบกิจกรรมของมนุษย์กิเลสหนา

ที่ยังคงสนุกในกามรสปรกติชั่วคราว ขอท่านที่รักษาปิดหูปิดตา หรือบอกกล่าวให้พลังงานทั้งหลายท่านรู้ตัวก่อน

ไม่ใช่หันมาอีกทีเจอแต่ลีลาดุเด็ดเผ็ดมันส์ ล้วงโน่นจับนี่

ซึ่งเทวดาบางองค์ท่านไม่ชอบครับเจอแบบนี้อาจจะหนีไปเลย

 


ต้องกลับไปปลุกไปลงของใหม่อีกรอบถึงจะกลับมา แต่ย้ำอีกครั้งว่า โดยหลักให้ยึดเอาข้อห้ามของสำนักที่ไปรับการลงวิชาเป็นหลัก

เว้นแต่ว่าจะไม่ได้มีข้อห้ามบอกกล่าว เพื่อลงสมรภูมิได้อย่างสบายใจครับ



ใครจะเอาไปใช้ไม่หวง แต่ตามมารยาทแล้วควรจะบอกกล่าวให้รับทราบและแสดงคำขอบคุณ กับสิ่งที่ผมมอบให้


ใครมีมารยาท มีจิตสำนึก ก็ลงขอบคุณให้ได้รู้จำนวนคนอ่านจบและคนสนใจกันหน่อยครับผม

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
ว่าเรื่อง"ขุนแผน"
ที่อาจจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับขุนแผน......
8 มิ.ย. 2024
“ศรัทธา” บันไดขั้นแรกของการอธิษฐานขออะไรก็สำเร็จ
อธิษฐานขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากแรงครู แล้วไม่ได้ อธิษฐานขอแล้วไม่สำเร็จ ต้องทำยังไถึงสำเร็จ อยากรู้จงอ่าน....
5 ก.พ. 2024
จะภะกะสะ หัวใจยอดคาถาที่คนมองข้าม.....
คนเรียนไสยเวทย์ รุ่นใหม่ๆ มักจะมองข้ามคาถานี้ไป เพราะคิดว่าคาถาง่ายๆ ไม่แปลกใหม่ ทำให้ไม่มีความสนใจทำการศึกษาเท่าไหร่.....
11 ม.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy